จ้างเขียนเว็บไซต์ VS เว็บไซต์สำเร็จรูป แบบไหนดีกว่ากัน?
หากผู้ประกอบการท่านไหนกำลังมีคำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวจนนอนไม่หลับ ไม่ได้เริ่มสร้างเว็บไซต์สักที คงจะปวดหัวไม่น้อยที่จะต้องตัดสินใจเลือกอย่างไรอย่างหนึ่งระหว่าง ความสมบูรณ์แบบ แต่ต้องแลกมาด้วยการดูแลยาก มีแต่โค้ดที่ซับซ้อนอ่านไม่ออก กับ ระบบที่ใช้งานง่าย แต่อาจจะมีฟังก์ชั่นไม่ครบทุกอย่างตามที่ต้องการ เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจคุณ วันนี้เรดดี้แพลนเน็ตจึงได้รวบรวมข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือกมาให้ จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
เว็บไซต์ คืออะไร?
เว็บไซต์คือสื่อนำเสนอข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถรวบรวมหน้าเว็บเพจหลายๆ หน้าเข้าไว้ด้วยกันและเชื่อมโยงผ่านไฮเปอร์ลิงก์ โดยจะต้องเปิดด้วยโปรแกรมเฉพาะทางคือ Web Browser การ สร้างเว็บไซต์ ส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นจากภาษาทางคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า HTML (Hyper Text Markup Language) หรือนำภาษาอื่นๆ มาร่วมด้วย ถูกเรียกว่า Web Page หรือ Home Page ปัจจุบันการทำเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปสำหรับการทำธุรกิจ เพราะว่ามีเครื่องมือที่เรียกว่าโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปขึ้นมา
องค์ประกอบในการทำเว็บมีอะไรบ้าง
- ชื่อเว็บไซต์ หรือที่เรียกกันว่า โดเมนเนม (Domain Name)
- เว็บโฮทติ้ง (Web Hosting) คือที่อยู่สำหรับเก็บข้อมูลของเว็บไซต์
- เว็บดีไซต์ (Web Design) หรือการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงาม
- คอนเทนต์ (Content) เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ ทั้งหน้าเว็บหลัก และหน้าเว็บย่อย ๆ
โดยหลักๆ แล้ว Domain Name, Web Hosting และ Web Design จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับ Content จะมาจากเจ้าของธุรกิจเขียนขึ้นเองหรือจ้างเขียนก็ได้เช่นกัน
ดังนั้นสำหรับธุรกิจแล้ว “เว็บไซต์” เปรียบเสมือนหน้าร้านออนไลน์ที่สามารถใส่ข้อมูลที่ต้องการบอกผู้บริโภคเท่าที่ต้องการ และเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงแพตฟอร์มต่างๆ ของธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม
ทำไมคนถึงต้องเข้าเว็บไซต์?
ในยุคปัจจุบัน เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทำให้ผู้บริโภคต้องการหาข้อมูลมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าเว็บไซต์มากขึ้นเพื่อสืบค้นข้อมูลที่ต้องการ และเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากเว็บไซต์ที่ตนเองต้องการ โดยเว็บไซต์เองสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจนั้นๆ ได้อีกด้วย
พฤติกรรมของผู้บริโภค ในอดีต
หากเราลองบิดเข็มนาฬิกาแล้วย้อนเวลากลับไปสัก 5-10 ปีที่แล้ว เมื่อเราต้องการที่จะซื้อแอร์ใหม่สักตัวนึง เรามักจะมุ่งตรงไปยังร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทันที เพื่อเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ และอาศัยการแนะนำของพนักงานขายเป็นหลัก ในยุคนี้ พนักงานขาย จึงเปรียบเสมือนกับ Influencer ของยุคปัจจุบัน
พฤติกรรมของผู้บริโภค ในปัจจุบัน
กลับมาที่ปัจจุบัน เมื่อเราต้องการซื้อแอร์ตัวใหม่ ในยุค Mobile First สิ่งแรกที่ผู้บริโภคมักจะทำคือ หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองมา เปิด Google และค้นหาข้อมูลเช่น "แอร์ทั่วไป กับ แอร์ Inverter แบบไหนดีกว่ากัน", "แอร์ Inverter คืออะไร" หรือ แอร์ยี่ห้อไหนดีสุด เป็นต้น หลังจากค้นหาข้อมูล รวบรวมข้อเปรียบเทียบ ตาม Customer Journey เมื่อมั่นใจแล้ว ถึงจะมุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อซื้อแอร์ที่เลือกไว้
สรุปแบบให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
การที่ธุรกิจของเรามีเว็บไซต์เป็นของตนเอง เท่ากับการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เมื่อผู้บริโภคเกิดความต้องการซื้อสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ (เพราะการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน Search Engine อย่าง Google มักจะทำเมื่อมีความต้องการสินค้านั้น ๆ หรือกำลังจะต้องการสั่งซื้อทันที)
ตัวอย่างเว็บไซต์ธุรกิจเครื่องประดับ
ตัวอย่างเว็บไซต์ธุรกิจอุปกรณ์อุตสาหกรรม
ประโยชน์หลักๆ ของเว็บไซต์มีอะไรบ้าง?
หลักๆ ของการสร้างเว็บไซต์ คือสามารถอัพเดทและทำให้ธุรกิจมีตัวตนบนโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา (หรือ 24 ชั่วโมง) ไม่ว่าจะค้นหาจากมุมไหนในโลก หรือเวลาใดก็ตาม หน้าเว็บไซต์ของธุรกิจกรรมจะสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา และยังสามารถเป็นตัวกลางสำหรับการค้นหาข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับลูกค้าได้อีกด้วย เราสามารถอัพเดทสินค้าและข้อมูลได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเชื่อมแพทฟอร์มต่างๆ ใน Social เอาไว้ด้วยกันได้อย่างง่ายดาย
สำหรับธุรกิจแล้ว สามารถเป็นเจ้าของเว็บไซต์ได้ 2 วิธีคือ จ้างทีมทำเว็บไซต์หรือเป็นเว็บไซต์จ้างเขียน อีกวิธีที่กำลังเป็นที่นิยมคือการใช้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป
เปรียบเทียบ ข้อดี และ ข้อเสีย ของเว็บไซต์จ้างเขียน VS เว็บไซต์สำเร็จรูป
ข้อเปรียบเทียบ | เว็บไซต์จ้างเขียน | เว็บไซต์สำเร็จรูป |
---|---|---|
ความสวยงาม | ต้องออกแบบเองทั้งหมด หรือซื้อเทมเพลตที่ต้องการเพิ่ม | มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้ |
การปรับแต่งเว็บไซต์ | ต้องใช้ทักษะด้านการเขียนโค้ดภาษาต่าง ๆ | สามารถปรับแต่งได้ง่าย และแสดงผลได้ทันที |
ระยะเวลาในการทำ | อย่างน้อย 1-6 เดือน ขึ้นอยู่กับชำนาญของทีม | เริ่มทำเว็บไซต์ และใส่เนื้อหาได้ทันที |
การบริหารจัดการระบบ | แก้ไขด้วยตัวเองยาก หรืออาจจะต้องเสียเงินค่าแก้ไขเพิ่ม | สามารถปรับแก้เบื้องต้นได้ด้วยตนเองเมื่อเกิดปัญหา หรือติดต่อผู้ให้บริการเพื่อขอความช่วยเหลือได้ |
ค่าใช้จ่าย | ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และควบคุมยาก | ส่วนใหญ่ราคาจะเริ่มต้นที่หลักพันต้น ๆ ต่อปี |
บริการหลังการขาย | ปกติจะมีบริการดูแลหากเว็บไซต์มีปัญหา ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นจะต้องจ่าย ค่าบริการเพิ่มเติมเพื่อต่อสัญญา | ปกติแล้วผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปจะมีช่องทางให้ติดต่อตลอดอายุการใช้งาน |
ในปัจจุบันธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการที่จะประหยัดเวลาและคลุมค่าใช้จ่ายในการทำเว็บไซต์ รวมถึงได้รับบริการที่ก่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด ทำให้มีธุรกิจจำนวนมาก สนใจบริการเว็บไซต์สำเร็จรูปนั่นเอง
สรุป และ ReadyPlanet แนะนำ
การทำเว็บไซต์ในปัจจุบัน แต่ละธุรกิจก็ย่อมมีสิ่งที่ต้องการแตกต่างกันไป บางธุรกิจอย่างเช่น สายการบิน การมีเว็บไซต์หมายถึงการเพิ่มช่องทางการจองตั๋วเครื่องบินให้กับลูกค้า สามารถทำรายการออนไลน์ได้สะดวกขึ้น ดังนั้นจึงต้องทำเว็บไซต์โดยการจ้างเขียน และพัฒนาโปรแกรมจองเอง ราคาที่ต้องจ่ายก็จะเป็นหลักล้าน ไปจนถึง หลักสิบล้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับธุรกิจนี้ แต่สำหรับ SMEs หรือผู้ประกอบการในประเทศไทย ที่พึ่งเริ่มขยายธุรกิจสู่โลกดิจิทัล และต้องการแพลตฟอร์มสร้างเว็บ ทำเว็บ ที่ใช้งานง่าย ปรับแต่ง เพิ่มเนื้อหา ได้สะดวก เว็บไซต์สำเร็จรูป จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
เว็บไซต์สำเร็จรูป สร้างเว็บไซต์ ทำเว็บไซต์ ง่ายกว่าอย่างไร ลองพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง ทดลองใช้งานฟรี
คนมักจะเข้าใจผิดว่าเว็บไซต์เป็นเรื่องของการออกแบบหน้าตาเพียงอย่างเดียว จริง ๆ แล้วการทำเว็บมีมากกว่านั้น และสามารถเลือกทำเว็บไซต์ได้หลายรูปแบบ คนทั่วไปมักจะเข้าใจผิดว่าเว็บไซต์เป็นเรื่องของการออกแบบหน้าตาเพียงอย่างเดียว จริง ๆ แล้วเว็บไซต์เป็นเรื่องของโปรแกรมที่จะต้องมีคนมาเขียน เพื่อบังคับให้หน้าตาเว็บ รูปแบบการแสดงผล และฟังก์ชั่นต่าง ๆ เป็นไปตามที่เราต้องการ นั่นหมายความว่า เว็บไซต์จะดีได้ หลัก ๆ คือต้องใช้โปรแกรมที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นและใช้คนออกแบบเว็บที่สวยงามเป็นจุดที่ต้องนำมาทำงานร่วมกัน ทีนี้เรามาดูว่า การทำเว็บไซต์มีกี่แบบบ้าง
ในปัจจุบันเราสามารถแยกรูปแบบการให้บริการทำเว็บได้หลัก ๆ 3 รูปแบบคือ
- บริการ Web Application คือการให้โปรแกรมเมอร์และกราฟฟิคดีไซต์เนอร์มาทำการเขียนโปรแกรมและออกแบบ เฉพาะให้กับเว็บไซต์เรา ซึ่งจะต้องมีทีมงานไปเก็บข้อมูล และทำเอกสารนำเสนอว่าเว็บที่ต้องการมีรูปแบบและฟังก์ชั่นอะไรบ้าง เพื่อตกลงกันก่อนเริ่มงานจริง มีข้อดีคือ เราสามารถได้เว็บไซต์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานและความสวยงามอย่างที่เราอยากได้ทุกประการ แต่ข้อเสียคือราคาแพงมาก เป็นหลักหลาย ๆ แสนขึ้นไป และใช้เวลาในการทำเว็บไซต์นาน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของฟังก์ชั่นงาน และความยากง่ายในการออกแบบ แบบนี้จะเหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีความต้องการที่ซับซ้อนสูง หรือเป็นบริษัทฯขนาดใหญ่ที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีรูปแบบที่มีรูปแบบที่ตัวเองต้องการจริง ๆ
- บริการเว็บสำเร็จรูป คือ การทำโปรแกรมจัดทำเว็บไซต์ให้เป็นโปรแกรมกลาง และให้ทุกคนมาใช้งานร่วมกัน ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีข้อดีคือได้เว็บไซต์ราคาถูกมาก ปีะล 3-5 พันบาท แต่ข้อเสียคือ ต้องทำเอง ทำให้มีจำนวนเว็บไซต์เยอะมากที่ทำเว็บไม่เสร็จ เพราะผู้ซื้อทำไม่มีความรู้ในด้านโปรแกรม ไม่มีเวลา และที่สำคัญไม่มีความสามารถในการออกแบบ ทำให้ได้เว็บไซต์ที่สวยงาม ไม่มีความน่าเชื่อถือ การทำเว็บรูปแบบนี้จะเหมาะสำหรับเว็บไซต์ทั่ว ๆ ไป มักจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจการใช้ IT ในระดับหนึ่ง
- บริการออกแบบเว็บบนเว็บสำเร็จรูป แบบนี้เป็นรูปแบบการให้บริการที่มาแก้ไขปัญหาในข้อ 2 คือแทนที่จะให้คนซื้อระบบเว็บสำเร็จรูปแล้วไปทำเอง แต่ไม่เสร็จ ก็จะเป็นการผู้ให้บริการเป็นคนออกแบบและจัดทำให้เลยผ่านเว็บสำเร็จรูปที่ตัวเองเป็นผู้ให้บริการ (iTopPlus ปัจจุบันก็ทำรูปแบบนี้เป็นหลักเช่นกัน) ข้อดีคือ ผู้ใช้บริการได้เว็บไซต์ไปใช้งานแน่นอน เสียเงินเพิ่มอีกไม่มาก (ปัจจุบันมักจะเก็บอยูที่ประมาณ 2x,000 บาท ต่อเว็บไซต์) ข้อเสียคือ มักจะไม่เหมาะกับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้น หรือผู้ประกอบการที่ทำเป็นธุรกิจเสริมที่ยังไม่มีเงินมากนัก
และนี่คือ 3 รูปแบบหลัก ๆ ของบริการทำเว็บในปัจจุบัน ซึ่งในแต่ละรูปแบบย่อมมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ทีนี้สำหรับผู้ประกอบการหรือนักการตลาดที่ดูแลเว็บไซต์บริษัทฯ คงจะต้องมาทำความเข้าใจ และเลือกดูแล้วว่าแบบไหนเหมาะกับธุรกิจตัวเอง ทั้งในรูปแบบการทำงานและงบประมาณที่เหมาะสม
แต่อย่าลืมนะครับว่า การทำเว็บไม่ว่ารูปแบบไหน อย่าคิดแต่เรื่องราคาอย่างเดียว แต่ต้องทำเว็บให้เสร็จด้วยนะครับ